การทำบัตรพนักงานขึ้นอยู่กับงบประมาณและความต้องการขององค์กร โดยสามารถทำได้ 2 วิธี หลัก
1) ทำเองด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป เช่น Canva หรือ Microsoft Word แล้วสั่งพิมพ์จากร้านหรือบริษัท
รับพิมพ์บัตร PVC
2) ใช้บริการบริษัทรับทำบัตรโดยเฉพาะ ซึ่งมีทีมออกแบบมืออาชีพและรับพิมพ์บัตรพร้อมอุปกรณ์เสริม
เช่น สายคล้องบัตร หรือซองใส่บัตร
ขั้นตอนการทำบัตรพนักงาน
วิธีที่ 1: ทำด้วยตนเอง
ออกแบบบัตร:
เลือกโปรแกรม: ใช้โปรแกรมออกแบบกราฟิก เช่น Canva หรือโปรแกรมเอกสารอย่าง Microsoft Word.
ออกแบบองค์ประกอบ:
ข้อมูลที่ต้องมี: ใส่ ชื่อ-นามสกุล, ตำแหน่ง/แผนก, รหัสพนักงาน, โลโก้/ชื่อบริษัท, รูปถ่ายพนักงาน.
ข้อมูลเสริม: อาจใส่ วันหมดอายุบัตร, เบอร์โทรศัพท์, ที่อยู่ หรือ ลายเซ็นผู้มีอำนาจ.
การจัดวาง: จัดวางข้อมูลให้เป็นระเบียบ อาจใช้ด้านหลังบัตรสำหรับข้อมูลเสริม.
โทนสีและลวดลาย: ใช้โทนสีและลวดลายที่สอดคล้องกับแบรนด์ขององค์กร.
ปรับแต่งรูปถ่าย: ใช้รูปที่คมชัด สีผิวและหน้าตาเป็นธรรมชาติ ไม่ตกแต่งจนผิดจากตัวจริง.
สั่งพิมพ์:
พิมพ์ออกมา: นำไฟล์ที่ออกแบบแล้วไปสั่งพิมพ์ที่ร้าน หรือบริษัทที่รับพิมพ์บัตร PVC.
การทำบัตร PVC: บริษัทอาจพิมพ์ลงบนบัตร PVC โดยตรง หรือพิมพ์บนกระดาษแล้วเคลือบ PVC.
วิธีที่ 2: ใช้บริการบริษัทรับทำบัตร
ติดต่อบริษัท: เลือกบริษัทที่ให้บริการทำบัตรพนักงานและรับออกแบบบัตรโดยเฉพาะ.
แจ้งความต้องการ:
การออกแบบ: ระบุรูปแบบบัตร, ข้อมูลที่ต้องการใส่ (ชื่อ, ตำแหน่ง, โลโก้ ฯลฯ) และจำนวนที่ต้องการ.
การพิมพ์: แจ้งว่าจะสั่งพิมพ์บัตร PVC และอุปกรณ์เสริม เช่น สายคล้องบัตร หรือซองใส่บัตร.
รับบัตร: รอรับบัตรพนักงานที่บริษัทจัดทำและจัดส่งให้.
ข้อมูลที่นิยมใส่ในบัตรพนักงาน
ด้านหน้า:
โลโก้บริษัท, ชื่อ-นามสกุล, รูปถ่าย, ตำแหน่ง/แผนก, รหัสพนักงาน.
ด้านหลัง:
เงื่อนไขการใช้บัตร, ข้อมูลบริษัท, รายละเอียดการติดต่อ